วันนี้ เรามาพูดเรื่องแยกขยะกันค่ะ
ที่ญี่ปุ่น เวลาจะทิ้งขยะ ต้องแยกเป็นหมวดหมู่ และแต่ละหมวดหมู่ก็ทิ้งกันคนละวัน ใส่ถุงคนละสี (เช่น ขยะเผาได้ ใส่ถุงสีครีม ขยะเผาไม่ได้ ใส่ถุงสีเขียว) ไม่ได้ทิ้งรวมกันวันเดียวทิ้งได้หมดทุกอย่าง (บางอย่างอาจรวมทิ้งในวันเดียวกัน แต่ถ้าต่างชนิดกัน ก็ต้องแยกออกจากกัน ไม่ได้รวมทิ้งในถุงเดียวกัน) ซึ่งวันไหนจะทิ้งอะไรได้บ้าง ก็จะแล้วแต่เมืองที่เราอาศัยอยู่ เขาจะมีตารางแจกทุกปีว่า วันไหนทิ้งอะไร …. แน่นอน ต้องมีภาษาอื่นๆ นอกจากภาษาญี่ปุ่นด้วย เช่น ภาษาอังกฤษ เกาหลี หรือ จีน…. เพราะฉะนั้น แก้ตัวไม่ได้ค่ะว่า ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก เลยทิ้งขยะผิดๆ …
ดูตัวอย่างจากเมืองที่เราอยู่ …. ในแต่ละวัน นอกจากของหลักๆ ที่จะทิ้งได้แล้ว ยังสามารถทิ้งขยะอย่างอื่นแยกย่อยออกไปได้อีก (ตามตารางที่เราให้ดูเป็นตัวอย่าง) เพื่อนๆ ได้อ่านได้เห็นคงจะ…โหหห…แล้วจะจำได้ไง เยอะแยะมากมาย …. นั่นล่ะค่ะ เป็นความเครียดของเราตอนไปอยู่ญี่ปุ่นใหม่ๆ เหมือนกัน… แค่ทิ้งขยะก็กลุ้มแล้ว 5555 จริงๆ แล้วเราจะจำเพียงว่า วันไหนที่ต้องทิ้งขยะในครัว ขยะหนังสือพิมพ์ หรือขยะที่ต้องทิ้งบ่อยๆ เท่านั้น ส่วนอย่างอื่นๆ ที่ไม่ค่อยทิ้งบ่อย ก็ไม่ต้องไปจำค่ะ เอาเป็นว่าถ้าเกิดต้องทิ้งอะไรที่ไม่ค่อยได้ทิ้งขึ้นมา ก็ค่อยมาเปิดโฉนดดูแล้วกันว่า ควรจะทิ้งวันไหน
การทิ้งขยะบางจำพวก ไม่ใช่แค่ใส่ถุงพลาสติกแล้วทิ้งเฉยๆ เท่านั้น ต้องมีการเขียนข้างถุงด้วยว่าอะไรยังไง เช่น ในกรณีหลอดไฟ หรือ ถ่านไฟฉายที่ไม่ใช้แล้ว หรือ ไฟแช็ค เวลาจะทิ้ง ต้องเขียนข้างถุงว่า 有害ごみ (อ่านว่า ยูไกโกมิ) ซึ่งถ้าแปลตามตัวภาษาญี่ปุ่นจะแปลได้ว่า ของที่มีพิษ… แต่ แปลแบบให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ของมีอันตราย หรือการทิ้งกล่องกระดาษ ก็ต้องทำตัวกล่องให้แบนราบเป็นแผ่นไป แล้วมัดรวมด้วยเชือกฟาง ส่วนหนังสือพิมพ์กับแมกกาซีน ก็ต้องแยกทิ้งต่างหากนะคะ อย่าเอาไปปนกัน
ถ้าจะทิ้งของใหญ่ๆ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ใช้แล้ว รวมถึง ทีวี หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่อื่นๆ ทางเขตก็มีบริการมาขนไปทิ้งให้ แต่เราต้องโทรไปนัดกับเขาว่าเป็นวันไหน อย่างไร ต้องมีการเขียนอะไรปิดไว้ที่ของที่จะทิ้งยังไง …. หรือ อาจจะโทรไปร้านรับซื้อของเก่า ของรีไซเคิลมาเอาไปก็ได้ แต่ร้านพวกนี้ จะคิดราคาแพงกว่าทางเขต…. เพื่อนๆ บางคนอาจจะว่า… อ้าว จะขายให้ร้านรีไซเคิล แล้วทำไมเราต้องจ่ายเงินให้เขาล่ะ …. ของบางอย่าง ทางร้านรับซื้อ ถ้าเขาคิดว่าจะขายได้ (แต่เรื่องราคา อย่าไปคาดหวังค่ะ 5555) และของบางอย่าง เขาก็ไม่รับซื้อค่ะ แต่เขาจะคิดค่าบริการขนไปทิ้งให้แทน ซึ่งเราต้องจ่ายเงินให้เขา แทนที่จะได้รับเงินจากเขา ทางที่ดี ถ้าเราจะทิ้ง ลองถามเพื่อนๆ หรือใครที่รู้จักว่าอยากได้มั้ย อยากได้ให้มาเอาไป … เราจะได้ไม่เสียเงินค่าทิ้งของค่ะ เรียกว่า ย้ายบ้านที ก็เปิดบ้านเป็นห้างให้เพื่อนฝูงเดินช็อปเลือกขนกันไปฟรีๆ ดีกว่า เสียเงินค่าขนทิ้ง… นะคะ อิอิ
ข้อดีของการอยู่ญี่ปุ่นมาเป็นสิบๆ ปี มันฝึกนิสัยให้เราแยกขยะทุกวัน เพราะหลังจากได้กลับมาอยู่เมืองไทย ทำให้เราติดนิสัยแยกขยะมาทำในเมืองไทยด้วย ไม่ว่ารถขยะเวลาเก็บจะเก็บรวมกันไปหมด หรือจะอะไรยังไงก็ตาม แต่เราก็ยังแยกขยะอย่างที่เราเคยทำค่ะ อย่างกล่องกระดาษ เราไม่สามารถทิ้งแบบเป็นกล่องๆ วางหน้าบ้านได้เลย รู้สึกไม่ดีจริงๆ ต้องพับเรียบร้อยแบบที่เคยทำ… ใครจะว่าดัดจริตยังไงก็ช่าง ขอเอาส่วนดีๆ ที่ได้จากญี่ปุ่นมาทำต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ♡
Comments